ตามปกติจะถูกคิดเป็น 2% ของราคาประเมิน แต่ในปี 2567 รัฐบาลมีนโยบายปรับลดค่าธรรมเนียมเหลือเพียง 0.01% เพื่อกระตุ้นการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
แต่หากราคาซื้อ-ขายมีมูลค่ามากกว่า 7 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมในการโอนจะถูกคิดเป็น 2% ของราคาประเมินเช่นเดิม
สำหรับการซื้อ-ขายแบบจดจำนอง ตามปกติจะถูกคิดค่าจดจำนอง 1% ของมูลค่า แต่ในปี 2567 ค่าจดจำนองถูกปรับลดลงเหลือเพียง 0.01% โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
แต่หากราคาซื้อ-ขายมีมูลค่ามากกว่า 7 ล้านบาท ค่าจดจำนองจะถูกคิดเป็น 1% ของราคาประเมินเช่นเดิม
ตัวอย่างการคำนวณค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองปี 2567
หากซื้อที่ดิน บ้าน หรือคอนโด มูลค่า 2,500,000 บาท แล้วทำการโอนพร้อมจดจำนองภายในครั้งเดียวกัน ก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จะมีค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดิน ดังนี้
อัตราใหม่ประจำปี 2567
อัตราปกติ
ซึ่งช่วยประหยัดค่าโอนที่ดิน บ้าน หรือคอนโด ได้ทั้งหมด 75,000 - 500 = 74,500 บาท
กรณีซื้อ-ขายบ้านพร้อมที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม หากผู้ขายเป็นบุคคลธรรมดา แล้วมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี หรือถือครองมาครบ 5 ปี จะต้องเสียค่าอากรแสตมป์ โดยมีอัตราคิดเป็น 0.5% ของราคาซื้อ-ขายหรือราคาประเมิน โดยยึดจากราคาที่สูงกว่า
ตัวอย่างเช่น
ซึ่งถ้าใครเสียค่าอากรแสตมป์เรียบร้อยแล้ว จะไม่ต้องเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะเพิ่ม แต่ในกรณีการซื้อ-ขายเฉพาะที่ดินอย่างเดียว จะต้องถือครองที่ดินครบ 5 ปีแล้วเท่านั้น จึงจะเสียแค่ค่าอากรแสตมป์ และไม่ต้องเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะเพิ่มเติม
กรณีที่ต้องการขายอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้จากการซื้อ-ขาย จากมรดก หรือถูกเวนคืนตามกฎหมาย จะต้องเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาขายหรือราคาประเมิน โดยยึดจากราคาที่สูงกว่า
ตัวอย่างเช่น
แต่ถ้าใครมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี หรือถือครองอสังหาริมทรัพย์ครบ 5 ปีแล้ว จะไม่ต้องเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ โดยจะเสียแค่ค่าอากรแสตมป์เท่านั้น
หากนิติบุคคลขายอสังหาริมทรัพย์ได้ จะต้องเสียภาษีเงินได้ 1% ของราคาซื้อ-ขายหรือราคาประเมิน โดยยึดจากราคาที่สูงกว่า แต่หากบุคคลธรรมดาขายอสังหาริมทรัพย์ได้ จะต้องเสียภาษีเงินได้ โดยนำราคาประเมินมาคำนวณตามอัตราภาษีเงินได้ พร้อมหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามจำนวนปีที่ถือครอง ตามตารางด้านล่างนี้
อัตราภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (กรณีซื้อ-ขาย บ้าน/ที่ดิน/คอนโด)
เงินได้สุทธิ (บาท) | จำนวนเงินได้ (บาท) | อัตราภาษี |
0 - 300,000 | 300,000 | 5% |
300,001 - 500,000 | 200,000 | 10% |
500,001 - 750,000 | 250,000 | 15% |
750,001 - 1,000,000 | 250,000 | 20% |
1,000,001 - 2,000,000 | 1,000,000 | 25% |
2,000,001 - 5,000,000 | 3,000,000 | 30% |
ตั้งแต่ 5,000,001 ขึ้นไป | - | 35% |
โดยการคำนวณค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จะไม่ได้รับการยกเว้นเงินได้สุทธิ 0 - 150,000 บาทแรก เหมือนกับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบปกติ
การหักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามจำนวนปีที่ถือครอง
จำนวนปี (ปี) | ร้อยละของเงินได้ (จากราคาประเมิน) |
1 | 92% |
2 | 84% |
3 | 77% |
4 | 71% |
5 | 65% |
6 | 60% |
7 | 55% |
8 ปีขึ้นไป | 50% |
โดยจำนวนปีจะนับตามปีบัญชี นั่นคือ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม ของปีเดียวกัน ดังนั้น หากถือครองตั้งแต่ สิงหาคม 2563 และขายออกเมื่อ มีนาคม 2566 จะเท่ากับถือครองมาทั้งสิ้น 4 ปี แต่ในกรณีที่ได้รับอสังหาริมทรัพย์จากมรดกหรือให้โดยเสน่หา จะหักค่าใช้จ่ายได้แค่ 50% ไม่ว่าจะถือครองมากี่ปีก็ตาม
ตารางสรุปค่าใช้จ่ายในการโอนที่ดิน โอนบ้าน และโอนคอนโด
ค่าใช้จ่ายในการโอนอสังหาริมทรัพย์ (กรณีการซื้อ-ขาย) |
||
ค่าใช้จ่าย | จำนวนเงิน | ผู้รับผิดชอบ |
ค่าธรรมเนียมการโอน | 2% จากราคาประเมิน (ในกรณีปกติ) | คนละครึ่งหรือตามตกลง |
0.01% จากราคาประเมิน (ในกรณีซื้อ-ขายอสังหาฯ ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ภายใน 31 ธ.ค. 67) |
||
ค่าจดจำนอง | 1% จากมูลค่าจำนอง (ในกรณีปกติ) | ผู้ซื้อหรือตามตกลง |
0.01% จากราคาประเมิน (ในกรณีซื้อ-ขายอสังหาฯ ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ภายใน 31 ธ.ค. 67 และต้องโอนพร้อมจดจำนองในครั้งเดียวกัน)
|
||
ค่าอากรแสตมป์ |
0.5% จากราคาซื้อ-ขาย หรือ ราคาประเมิน (โดยอิงจากราคาที่สูงกว่า) * ถ้าเสียค่าอากรแสตมป์แล้ว จะไม่ต้องเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ |
ผู้ขาย |
ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ |
3.3% จากราคาซื้อ-ขาย หรือ ราคาประเมิน (โดยอิงจากราคาที่สูงกว่า) * จะเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ ต่อเมื่อถือครองอสังหาฯ น้อยกว่า 5 ปี |
ผู้ขาย |
ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่าย |
ผู้ขายคือบุคคลธรรมดา ค่าภาษีคำนวณจากราคาประเมินและจำนวนปีในการถือครอง |
ผู้ขาย |
ผู้ขายคือนิติบุคคล เสียภาษี 1% จากราคาซื้อ-ขาย หรือ ราคาประเมิน (โดยอิงจากราคาที่สูงกว่า) |
หมายเหตุ: ข้อมูล ณ วันที่ 5 กันยายน 2567
ซึ่งโดยทั่วไปจริง ๆ แล้วค่าธรรมเนียมในการโอนที่ดิน โอนบ้าน โอนคอนโด ไม่ได้ถูกกำหนดแบบตายตัวว่าใครต้องรับผิดชอบ แต่มักจะขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อนั่นเอง และหากใครอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับค่าโอนบ้านเพิ่มเติม สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่